ปรับแต่ง Slackware Linux
หลังจากติดตั้ง Slackware แล้ว จะต้องปรับแต่งเพื่อให้ตรงกับการใช้งาน
เนื้อหา
คอมไพล์ Kernel (Optional)
- หน้าหลัก: คอมไพล์ Kernel
ขั้นตอนนี้ยังไม่จำเป็น เพราะยังสามารถใช้ kernel ที่ติดมากับ Slackware 13.37 ได้ แต่ถ้ามีการใช้ความสามารถของ kernel ก็จะต้องติดตั้ง kernel ใหม่ โดยมีความต้องการดังนี้
- iSCSI (built-in) ใช้ kernel 3.2.5 ขึ้นไป
- Network Team ใช้ kernel 3.3 ขึ้นไป
สร้างไดเรกทอรี
- หน้าหลัก: สร้างไดเรกทอรี
สร้างไดเรกทอรีสำหรับเก็บข้อมูล
ปรับแต่ง Filesystem
- หน้าหลัก: ปรับแต่ง Filesystem
เมื่อติดตั้ง Slackware เรียบร้อยแล้ว ก็ต้องปรับแต่ง Filesystem ให้เหมาะสมกับการใช้งาน โดยขั้นตอนดังต่อไปนี้
เปลี่ยนการอ้างอิง Filesystem
เนื่องจากใน Linux การอ้างถึงดิสก์ และพาร์ทิชั่นจะไม่ข้ามตัวที่เว้นไว้ เช่น เสียบฮาร์ดดิสก์ที่ SATA-1, SATA-3 และ SATA-4 ก็จะได้ชื่อดิสก์เป็น sda, sdb และ sdc ตามลำดับ แต่ถ้าในภายหลังเอาฮาร์ดดิสก์มาเสียบเพิ่มที่ SATA-2 ดิสก์ลูกนี้จะได้ชื่อเป็น sdb ส่วนดิสก์ที่เสียบที่ SATA-3 และ SATA-4 ก็จะกลายเป็น sdc และ sdd ตามลำดับ ดังนั้นเพื่อไม่ให้สับสนในการอ้างถึงดิสก์ และพาร์ทิชั่น เราจึงเปลี่ยนมาใช้การอ้างถึงโดยใช้ชื่อแทนพาร์ทิชั่น
ติดตั้งฮาร์ดดิสก์
เพื่อใช้งานฮาร์ดดิสก์ลูกที่เหลือ
ปรับแต่งแพ็กเกจ (Optional)
- หน้าหลัก: ปรับแต่งแพ็กเกจ
ติดตั้งแพ็กเกจเพิ่มเติม และอัปเดตเพื่อความสมบูรณ์ แนะนำให้ติดตั้งในการใช้งานจริง แต่ถ้าเป็นการทดสอบ ไม่ต้องติดตั้งก็ได้
เพิ่มการเรียก dhcpd
- หน้าหลัก: เพิ่มการเรียก dhcpd
Slackware ไม่ได้เรียก dhcpd ดังนั้นจึงต้องสร้างสคริปต์สำหรับเรียกใช้